NEWS

  • ฟรุ้ตเทลิเย่ร์โฮม
  • コラム
  • >
  • เก็บสตรอว์เบอรี่ที่ฟุกุโอกะ 2026: คู่มือฉบับสมบูรณ์ — ตั้งแต่การเลือกสวนไปจนถึงการเพลิดเพลินกับประสบการณ์
  • 2025.10.20

    コラム

    เก็บสตรอว์เบอรี่ที่ฟุกุโอกะ 2026: คู่มือฉบับสมบูรณ์ — ตั้งแต่การเลือกสวนไปจนถึงการเพลิดเพลินกับประสบการณ์

    จังหวัดฟุกุโอกะเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกสตรอว์เบอรี่ชั้นนำของญี่ปุ่น โดยเฉพาะ“อะมาโอะ (Amaou)” ซึ่งเป็นสตรอว์เบอรี่แบรนด์ประจำฟุกุโอกะที่ได้รับความนิยมทั่วประเทศ ภายในจังหวัดมีสวนสตรอว์เบอรี่จำนวนมาก และตั้งแต่ฤดูหนาวถึงฤดูใบไม้ผลิ นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาสนุกกับการเก็บสตรอว์เบอรี่กันไม่ขาดสาย

    เสน่ห์สูงสุดของการเก็บสตรอว์เบอรี่ที่ฟุกุโอกะ คือการได้ลิ้มรสผลสุกฉ่ำ “สดจากต้น” สตรอว์เบอรี่ตามซูเปอร์มักถูกเก็บก่อนสุกเต็มที่เพื่อสะดวกต่อการขนส่ง แต่ที่สวนคุณจะได้กินผลที่สุกคาต้นในทันที ความหวานและกลิ่นหอมต่างกันลิบลับ—ได้สัมผัส “รสชาติแท้จริงของสตรอว์เบอรี่”

    บทความนี้รวบรวมทุกอย่างที่ควรรู้เพื่อสนุกกับการเก็บสตรอว์เบอรี่ในฟุกุโอกะ—ตั้งแต่พื้นฐาน วิธีเลือกสถานที่ ไปจนถึงเทคนิคการจอง

    ฤดูกาลเก็บสตรอว์เบอรี่ที่ฟุกุโอกะ

    ช่วงเปิดทำการและลักษณะตามฤดูกาล

    สวนสตรอว์เบอรี่ในฟุกุโอกะมักเปิดตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน รวมราวห้าเดือนครึ่ง ทั้งราคาและขนาดผลจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา

    ธันวาคม–มกราคม (ต้นฤดูกาล) เป็นช่วงที่สตรอว์เบอรี่ “ลูกใหญ่และหวานที่สุด” ความต่างของอุณหภูมิช่วยเพิ่มปริมาณน้ำตาล ทำให้แต่ละผลหวานจัด แต่ราคาก็มักจะสูงที่สุดเช่นกัน

    กุมภาพันธ์–มีนาคม คือช่วงพีค ให้สมดุลระหว่างคุณภาพกับราคาได้ดีที่สุด ผลผลิตมีคุณภาพสม่ำเสมอและมีจำนวนมาก จองคิวได้ง่ายขึ้น และอุณหภูมิในโรงเรือนก็สบายขึ้น

    เมษายน–มิถุนายน เป็นปลายฤดูกาล ผลจะเล็กลงเล็กน้อย แต่ราคาย่อมเยามากขึ้น ขนาดกำลังเหมาะสำหรับเด็กเล็ก และเหมาะกับคนที่อยากกินได้ “หลายลูกแบบจุใจ”

    วิธีเลือกสถานที่เก็บสตรอว์เบอรี่

    จุดที่ควรตรวจสอบ

    เพื่อให้เที่ยวได้คุ้ม เลือกสถานที่ให้เหมาะกับความต้องการของคุณ อันดับแรกดู “สายพันธุ์” ที่ปลูก แม้ “อะมาโอะ (Amaou)” จะดังที่สุดในฟุกุโอกะ แต่บางสวนก็ปลูกหลายสายพันธุ์ เช่น “เบนิฮ็อปเปะ (Benihoppe)” และ “โคอิมิโนริ (Koi-minori)” ทำให้ได้ “ชิมเปรียบเทียบ” ความต่างของรสชาติ

    ต่อมาคือ “วิธีเพาะปลูก” ปัจจุบันสวนจำนวนมากใช้ “แปลงยกสูง (High-bed)” ยกต้นให้อยู่ระดับเอว เก็บได้โดยไม่ต้องนั่งยอง ลดภาระร่างกาย และสะดวกสำหรับผู้ใช้รถเข็น ผลไม่สัมผัสดินจึงดูสะอาดถูกสุขลักษณะ

    เรื่อง “การเข้าถึง (Barrier-free)” ก็ควรเช็ก หลายแห่งออกแบบให้เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ใช้รถเข็นเพลิดเพลินได้ ตรวจดูว่ามีขั้นต่างในโรงเรือนหรือไม่ ห้องน้ำอเนกประสงค์มีหรือเปล่า และเส้นทางจากลานจอดรถถึงโรงเรือนสะดวกแค่ไหน

    ทั้งนี้ ควรเช็กเพิ่มเติมตามกลุ่มผู้ไปด้วย เช่น อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าได้ไหม มีคาเฟ่หรือจุดจำหน่ายผลผลิตสดไหม และมีโซนเด็กหรือไม่

    ระบบจองและช่วงราคา

    สวนส่วนใหญ่มัก “ต้องจองล่วงหน้า” โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ วันหยุด และช่วงปิดเทอมฤดูหนาว/ใบไม้ผลิ จึงควรจองแต่เนิ่น ๆ หลายสวนเปิดรับจองตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน

    ราคามัก “ผันแปรตามฤดูกาล” โดยประมาณ: ธ.ค.–ก.พ. ผู้ใหญ่ ¥2,000–¥2,800 / มี.ค.–พ.ค. ¥2,000–¥2,500 / มิ.ย. เป็นต้นไป ¥1,500–¥1,900 เด็กประถมและเล็กกว่ามักได้ส่วนลด และหลายแห่ง “เด็กต่ำกว่า 3 ขวบฟรี”

    สวนสตรอว์เบอรี่แนะนำในฟุกุโอกะ

    Fruitelier เมืองคุรุเมะ

    Fruitelier ในเมืองคุรุเมะ คือหนึ่งในสวนตัวแทนของฟุกุโอกะ บริหารโดยสวนผลไม้ Nakamura Orchard ที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1910 มีประวัติยาวนานกว่า 110 ปี

    ไฮไลท์คือ “ชิมเปรียบเทียบหลายสายพันธุ์” เช่น Benihoppe, Koi-minori และอื่น ๆ อีก 2–3 ชนิด แต่ละพันธุ์หวาน-เปรี้ยว-สัมผัสต่างกัน สนุกกับการค้นหา “ตัวโปรด” ของคุณ ช่วงเก็บ 50 นาที เพียงพอให้ลิ้มรสอย่างจุใจ

    ทั้งสถานที่ออกแบบ “ไร้อุปสรรค” รถเข็นเคลื่อนตัวในโรงเรือนได้สะดวก ระบบแปลงยกสูงทำให้ “นั่งก็เก็บได้” และ “นำสัตว์เลี้ยงเข้าได้” จึงเป็นอีกเหตุผลที่ได้รับความนิยม

    มีคาเฟ่ในสวน ให้เพลิดเพลินกับพาร์เฟต์และเมนูมื้อกลางวันที่ทำจากผลไม้สดหลังเก็บเสร็จ มีโซนเด็ก เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก

    การเดินทาง: ขับรถจากตัวเมืองฟุกุโอกะราว 40 นาที และประมาณ 15 นาทีจากทางด่วนคิวชู ทางออก Kurume IC มีที่จอดฟรี 30–40 คัน (ช่วงพีคมีลานจอดชั่วคราวเพิ่ม ~15 คัน) และรองรับรถบัสคันใหญ่ได้

    เก็บสตรอว์เบอร์รี่ที่ฟุกุโอกะ/คุรุเมะ【Fruitelier】

    เบนิโฮปเป้, โคอิมิโนริ & 2-3 สายพันธุ์ | ทานไม่อั้น 50 นาที | รองรับผู้พิการ | รับสัตว์เลี้ยง

    รู้จักสายพันธุ์สตรอว์เบอรี่

    เสน่ห์ของอะมาโอะ (Amaou)

    อะมาโอะเป็นแบรนด์ที่ฟุกุโอกะพัฒนาขึ้น ชื่อมาจากอักษรย่อของคำญี่ปุ่นว่า “แดง-กลม-ใหญ่-อร่อย” สมชื่อด้วย “ลูกใหญ่ สีแดงสด” และ “สมดุลหวาน-เปรี้ยว” เยี่ยมยอด

    สตรอว์เบอรี่ทั่วไปหนักราว 15–20 กรัม ขณะที่อะมาโอะมัก 30–50 กรัม—ใหญ่กว่าเท่าตัว เนื้อแน่นฉ่ำ สมฉายา “ราชาแห่งสตรอว์เบอรี่”

    ลักษณะของเบนิฮ็อปเปะ (Benihoppe)

    พัฒนาจากจังหวัดชิซุโอกะ แต่ปลูกในฟุกุโอกะเช่นกัน เด่นด้วย “สีแดงเข้ม” และ “กลิ่นหอมจัด” รสหวาน-เปรี้ยวสมดุล (ถูกใจสายชอบเปรี้ยวนิด ๆ) เนื้อแน่น “เคี้ยวเพลิน”

    เสน่ห์ของโคอิมิโนริ (Koi-minori)

    สายพันธุ์ค่อนข้างใหม่ “เปรี้ยวน้อย หวานนำ” เนื้อนุ่ม กินง่ายสำหรับเด็กเล็กหรือคนที่ไม่ชอบเปรี้ยว ยิ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ “ยิ่งหวาน” และ “ละมุนละลายในปาก”

    เคล็ดลับสนุกกับการเก็บสตรอว์เบอรี่

    วิธีเลือกผลอร่อย

    เริ่มจาก “สี” ผลที่ “แดงจนถึงขั้วใบ (calyx)” คือสุกเต็มที่ ผิวควรเป็นเงาและสีสม่ำเสมอ

    ต่อด้วย “รูปทรง” ปลายมนและบริเวณเมล็ดบุ๋มเล็กน้อย มักหวานกว่า โดยมาก “ขนาดกลางถึงใหญ่” มักให้ความหวานเข้มข้นกว่าลูกที่ใหญ่สุด

    ทริคการกินให้อร่อย

    “ปลายผล” หวานที่สุด ให้เริ่มกัด “จากใกล้ขั้วไปหาปลาย” จะได้ความหวานต่อเนื่อง ช่วงแรกลอง “กินเปล่า ๆ” เพื่อชิมรสแท้ของผลไม้

    ถ้ามีหลายสายพันธุ์ ให้ “ชิมสลับ” จะยิ่งสัมผัสเอกลักษณ์แต่ละชนิดชัดขึ้น และไม่เบื่อง่าย

    ไอเดียถ่ายรูป

    การเก็บสตรอว์เบอรี่มีโมเมนต์ “ถ่ายรูปสวย” เพียบ ความตัดกันระหว่าง “แดงของผล” กับ “เขียวของใบ” งดงาม โรงเรือนที่รับแสงธรรมชาติถ่ายได้สว่างคมชัด

    ลองถ่าย “ถือผลที่เพิ่งเก็บ” “ยิ้มตอนชิมคำแรก” หรือ “ฉากเก็บร่วมกันของครอบครัว/คู่รัก” รับรองได้รูปสวยลงโซเชียลเพียบ

    สนุกต่อหลังเก็บเสร็จ

    ใช้บริการคาเฟ่ในสวน

    หลายสวนมีคาเฟ่/โซนพักผ่อน ถึงจะอิ่มจากการเก็บ แต่ของหวานและพาร์เฟต์จากผลสด ๆ ก็ “กินได้อีก”

    คาเฟ่ในสวนมักมีเมนูตามฤดูกาล ใช้ผลที่ “เก็บเช้านั้นเลย” เช่น พาร์เฟต์สตรอว์เบอรี่ สมูทตี้ แซนด์วิชผลไม้ ความสดทำให้ “อร่อยไม่เหมือนที่ไหน”

    ซื้อของฝากที่จุดจำหน่าย

    ที่จุดจำหน่ายมี “สตรอว์เบอรี่สดเก็บเช้า” แบบแพ็กให้ซื้อ ทั้งเกรดปกติและ “ผลสวยน้อย/คัดตกไซซ์” ราคาประหยัด—เหมาะกินที่บ้าน รสชาติ “ไม่ต่าง”

    ของแปรรูปอย่างแยมสตรอว์เบอรี่ ผลไม้อบแห้ง และเบเกอรี่ ก็เป็นของฝากยอดนิยม เก็บได้นาน พกพาสะดวก เหมาะกับนักท่องเที่ยวเดินทางไกล

    การจอง—เมื่อไหร่และอย่างไร

    เวลาที่ควรจอง

    “ยิ่งจองเร็ว ยิ่งชัวร์” ช่วงฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.) ฮิตมาก ช่องวันหยุดมักเต็มทันทีที่เปิดจอง วันธรรมดาจะจองง่ายกว่าและคนไม่พลุกพล่าน

    รอบเช้า “ฮ็อต” เพราะผลสวยเหลือเยอะ แต่ “รอบบ่าย” มักจองง่ายกว่า ถ้าปรับเวลาได้ ลองพิจารณารอบบ่าย

    วิธีการจอง

    จอง “ออนไลน์” หรือ “โทรศัพท์” ออนไลน์สะดวก จองได้ 24 ชม. เช็กที่ว่างแบบเรียลไทม์ และมีอีเมลยืนยันช่วยให้เช็กอินหน้าง่าย

    การโทรจองจำกัดตามเวลาเปิดทำการ แต่ “ได้คุยกับเจ้าหน้าที่” เหมาะจะถามรายละเอียดหรือแจ้งความต้องการพิเศษ หากใช้รถเข็น นำสัตว์เลี้ยง หรือจองหมู่คณะ แนะนำ “โทรปรึกษาล่วงหน้า”

    การเดินทางและของที่ควรพก

    การเดินทาง

    สวนส่วนใหญ่อยู่ชานเมือง “ขับรถส่วนตัวสะดวกสุด” เกือบทุกแห่งมีที่จอดฟรี หากใช้ขนส่งสาธารณะ มักต้อง “นั่งแท็กซี่” ต่อจากสถานีใกล้สุด

    ของที่ควรพก

    “ผ้าขนหนูผืนเล็ก/ทิชชูเปียก” จำเป็น เพราะน้ำสตรอว์เบอรี่อาจเลอะมือ พกหลายผืนอุ่นใจกว่า “ถุงพลาสติก” ก็มีประโยชน์สำหรับผ้าเปื้อนและขยะ

    “เครื่องดื่ม” ก็ควรพก เพราะสตรอว์เบอรี่มีน้ำตาลสูง จิบ “น้ำ/ชา” จะได้รีเฟรชลิ้น ทำให้ผลถัดไป “อร่อยขึ้น”

    แต่งตัว “สบาย เคลื่อนไหวง่าย” และ “ยอมเลอะนิดได้” กางเกงสีขาวเลอะแล้วเห็นชัด ควรเลี่ยง รองเท้าเลือก “สนีกเกอร์ที่เดินสบาย” เหมาะกับพื้นในโรงเรือน

    คำถามที่พบบ่อย

    ฝนตกก็สนุกได้ไหม?

    ได้ ถ้าเป็นสวนโรงเรือน “ฝนตกก็เที่ยวได้” ไม่เปียกในตัวโรงเรือน แต่ช่วงเดินจากลานจอดถึงโรงเรือนอาจเปียก ควรพกร่ม/เสื้อกันฝน และเพราะพื้นอาจชื้น เลือกรองเท้าที่ “เลอะได้ไม่เสียดาย”

    เอากลับบ้านได้ไหม?

    ซื้อกลับได้แบบ “ชั่งกิโล” *ราคาเปลี่ยนตามฤดูกาล (ประมาณ ¥300–¥450 ต่อ 100 กรัม)*

    เด็ก ๆ กินได้ประมาณกี่ลูก?

    ต่างกันตามวัยและแต่ละคน โดยคร่าว ๆ เด็กเล็ก 10–15 ลูก เด็กประถม 15–25 ลูก อย่าบังคับ ให้เด็ก “กินตามจังหวะของตัวเอง”

    เสื้อผ้าจะเลอะไหม?

    สวนแปลงยกสูงแทบไม่ต้องกังวลเรื่องดิน แต่ “น้ำสตรอว์เบอรี่” อาจโดนเสื้อได้ เลือกเสื้อผ้าสีเข้มจะ “เห็นรอยน้อย” และสบายใจกว่า

    ผู้ใช้รถเข็นเข้าร่วมได้ไหม?

    ได้ หากสวน “รองรับ Barrier-free” แปลงยกสูงช่วยให้ “นั่งก็เก็บได้” ลดภาระร่างกาย ควรตรวจรายละเอียดการเข้าถึงของสถานที่ล่วงหน้าเพื่อความมั่นใจ

    ไปสนุกกับการเก็บสตรอว์เบอรี่ที่ฟุกุโอกะกัน

    ฟุกุโอกะคือหนึ่งในภูมิภาคสตรอว์เบอรี่ชั้นนำ มีสวนให้เก็บตั้งแต่ฤดูหนาวถึงฤดูใบไม้ผลิ ผลสุกสดใหม่มี “ความหวานและกลิ่นหอม” ที่ผลซูเปอร์มาร์เก็ตเทียบไม่ติด

    กุญแจสู่ความสำเร็จคือ “เลือกสถานที่ให้ตรงใจ” และ “จองล่วงหน้า” พิจารณาสายพันธุ์ การเข้าถึง คาเฟ่ในสวน ฯลฯ ให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณ

    ตั้งแต่ Fruitelier เมืองคุรุเมะ ไปจนถึงสวนเสน่ห์อีกมากมายทั่วจังหวัด ใช้คู่มือนี้วางแผนทริป “เก็บสตรอว์เบอรี่ที่ฟุกุโอกะ” ให้เพลิดเพลินได้เลย

    จอง Fruitelier สำหรับเก็บสตรอว์เบอร์รี่

    ระบบจองล่วงหน้าอย่างเคร่งครัด เพลิดเพลินได้อย่างสบายใจ

    เกี่ยวกับการจอง

    จำนวนที่รับแตกต่างกันตามสภาพการเจริญเติบโตของสตรอว์เบอร์รี่

    • สภาพการเจริญเติบโตของสตรอว์เบอร์รี่:จำนวนที่รับได้ขึ้นอยู่กับสภาพผลในวันนั้น
    • การปรับกับทัวร์กลุ่ม:อาจไม่ได้วันเวลาที่ต้องการเนื่องจากการจองกลุ่ม
    • รับตามลำดับก่อน-หลัง:วันที่ได้รับความนิยมมักจะเต็มเร็ว
    💡 เพื่อเพลิดเพลินในวันเวลาที่ต้องการ แนะนำให้จองล่วงหน้า

    จุดเด่นของ Fruitelier

    • เปรียบเทียบ 2-3 สายพันธุ์:เบนิโฮปเป้, โคอิมิโนริ และอื่นๆ
    • ทานไม่อั้น 50 นาที:เพลิดเพลินได้อย่างผ่อนคลาย
    • รองรับผู้พิการอย่างสมบูรณ์:รถเข็น รถเข็นเด็ก OK
    • รับสัตว์เลี้ยง:มีเรือนกระจกพิเศษสำหรับสุนัข
    • มีคาเฟ่:พักผ่อนได้หลังจากเก็บสตรอว์เบอร์รี่

    ระบบจองและยกเลิกที่สบายใจ

    แม้กำหนดการเปลี่ยนแปลงก็ไม่เป็นไร

    • จนถึงวันก่อนเวลา 17:00:ยกเลิกง่ายทางเว็บ (ฟรี)
    • ยืดหยุ่นได้:สบายใจแม้กำหนดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
    "กังวลว่ากำหนดการอาจเปลี่ยน..." ไม่ต้องกังวล จองวันที่ต้องการก่อนเลย!

    จองผลไม้ตามฤดูกาล
    ได้ที่นี่